แยกอย่างไรระหว่าง แมวตั้งท้อง กับแมวที่อ้วนลงพุง
เคยทักว่า แมวตั้งท้อง แล้วมารู้ทีหลังว่ามันแค่อ้วนบ้างไหม แมวที่อ้วนกับแมวที่กำลังตั้งท้องมีความต้องการที่แตกต่างกันแบบสุดขั้ว การเลี้ยงดูก็ต้องปรับให้เหมาะสมด้วยถึงจะดี แต่ปัญหาคือมือใหม่หลายคนไม่รู้ว่าแมวตัวเองกำลังอยู่ในสถานะไหน กว่าจะรู้อีกทีก็คือใกล้คลอดแล้ว เลยไม่ทันได้บำรุงแม่แมวหรือเตรียมความพร้อมอะไรเลย ครั้งนี้เราจึงมีวิธีการสังเกตง่ายๆ มาฝากกัน การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง พฤติกรรมการกินของ แมวตั้งท้อง แมวตั้งท้องกับแมวอ้วนนั้นต้องการปริมาณอาหารมากเหมือนกัน แต่หากเจ้าของใส่ใจในรายละเอียดก็จะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน แมวอ้วนจะกินเยอะด้วยจำนวนมื้ออาหารเท่าเดิม พูดง่ายๆ ก็คือเราให้อาหารตามเวลาเดิมได้โดยแมวไม่งอแง แค่ต้องเทอาหารมากกว่าปกติ แต่แม่แมวจะกินเยอะแบบหิวบ่อย จากเคยให้ 1-2 มื้อก็ต้องเพิ่มเป็น 3-4 มื้อต่อวัน แต่ละมื้อกินไม่มากเท่าไร แมวตั้งท้องจะมีช่วงหลังที่เปลี่ยนแปลงไป โครงสร้างร่างกายของแมวอ้วนจะคล้ายเดิม ยกเว้นช่วงท้องที่ใหญ่ขึ้น แต่แมวตั้งท้องจะมีช่วงหลังที่แอ่นเล็กน้อยด้วย เวลาที่เรามองแบบทั่วไปอาจเห็นไม่ชัด ต้องมองจากด้านข้างในระดับเดียวกับแมว ถึงจะเห็นว่าจากท้ายทอยไปจนถึงประมาณกลางหลังมีอาการแอ่นลง ก่อนจะโค้งขึ้นไปรับกับสะโพก ลักษณะหลังแอ่นนี้จะสังเกตเห็นง่ายขึ้นในแมวที่โตเต็มวัยแล้ว แต่ถ้าเป็นแมวเด็กก็แทบไม่เห็นเลย แมวตั้งท้องอาจมีอาการแพ้ท้องให้เห็น อาการแพ้ท้องในแมวตั้งท้องนั้นแตกต่างกันไป บางตัวอาจอาเจียนเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีสัญญาณป่วยของโรคอื่นร่วมด้วย บางตัวแค่ร่างกายไม่แข็งแรงเท่าเดิม อาจมีอาการไอเบาๆ นอนระยะสั้นแต่นอนบ่อยขึ้น หงุดหงิดหรือมีอารมณ์แปรปรวนบ่อย ก็จะคล้ายกับมนุษย์ตอนตั้งท้องนั่นเอง ตัวไหนที่แพ้ท้องมากเกินไปจนแลดูสุ่มเสี่ยง เจ้าของก็ควรนำไปพบสัตวแพทย์ เพื่อรับยาบำรุงและรับคำแนะนำในการดูแลที่ถูกต้อง