ด้วยลักษณะการทำงานและรูปแบบชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปมาก มีคนทำงานอิสระกันมากขึ้น และมีพนักงานที่ WFH กันมากขึ้นด้วย สัตว์เลี้ยง จึงกลายเป็นสมาชิกใหม่ที่หลายคนเลือกให้เข้ามาอยู่ในบ้าน อย่างน้อยที่สุดก็จะได้เป็นเพื่อนแก้เหงา พร้อมกับช่วยไม่ให้บรรยากาศภายในบ้านไร้สีสันจนเกินไป แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการเลี้ยงอะไรก็ตาม ย่อมต้องมีภาระบางอย่างตามมาด้วยเสมอ แถมปัจจัยที่เรามีก็ต้องพร้อมที่จะเลี้ยงสิ่งนั้นด้วย ลองไปดูกันว่าเราต้องพิจารณาเรื่องไหนบ้าง
พื้นที่ในบริเวณอยู่อาศัยเหมาะกับ สัตว์เลี้ยง ชนิดใด
นี่คือสิ่งแรกที่ต้องคิดถึง เพราะ สัตว์เลี้ยง แต่ละชนิดมีอุปนิสัยแตกต่างกัน เอาแค่หมาคนละสายพันธุ์ก็ต้องการพื้นที่ต่างกันแล้ว หมาใหญ่ต้องใช้พลังงานมาก มันไม่สามารถอยู่ในพื้นที่แคบๆ ได้ หรือถ้าอยู่ห้องคอนโดก็อาจจะเลี้ยงได้แค่ สัตว์ตัวเล็ก เช่น หนู กระต่าย เต่า เป็นต้น อย่าฝืนเลี้ยงสัตว์โดยไม่สอดคล้องกับพื้นที่ที่มีอยู่เด็ดขาด มันจะมีข้อเสียมากกว่าข้อดีตามมาแน่นอน การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง
ทุนทรัพย์ที่มีเพียงพอสำหรับการดูแลสัตว์เลี้ยง
ถ้าเพียงลำพังตัวเราเองยังไม่ค่อยไหว ก็อย่าได้หาสัตว์เลี้ยงเข้ามาในบ้านอีกเลย เนื่องจากการเพิ่มสมาชิกเข้ามานั้น ไม่ได้สิ้นเปลืองแค่ค่าอาหาร มันจะมีค่าดูแลสุขภาพ ค่าข้าวของเครื่องใช้ และค่าใช้จ่ายยิบย่อยอีกนับไม่ถ้วน เราต้องดูภาพรวมว่าสัตว์ที่สนใจนั้นมีรายจ่ายประมาณเท่าไรต่อเดือน และเรามีศักยภาพเพียงพอหรือไม่ หากไม่คิดเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้า สุดท้ายก็จะเลี้ยงไม่ไหวและอาจกลายเป็นภาระสังคมอีก
สัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดต้องการเวลาจากเราด้วย
แค่ปัจจัยต่างๆ ที่เราให้ความสะดวกสบายทางร่างกายนั้นยังไม่พอสัตว์เลี้ยงก็เหมือนคนในครอบครัวที่ต้องการเวลาจากเรา ยิ่งถ้าเราเป็นเจ้าของโดยตรงก็ยิ่งต้องให้เวลาเขามากพอ ไม่อย่างนั้นสัตว์อาจมีภาวะซึมเศร้าหรือมีความเครียดสะสมจนล้มป่วยได้ ซึ่งสัตว์แต่ละชนิดก็ต้องการเวลามากน้อยต่างกันไป เรา gclub จึงต้องนำประเด็นนี้มาประกอบการพิจารณาด้วยเสมอ ถ้าต้องทำงานตลอดและมีเวลาว่างน้อยมาก ก็ต้องหาสัตว์ที่มีโลกส่วนตัวสูงเช่นกัน